ท่อ PPR กรีนไปป์ – ท่อประปาและท่อน้ำร้อนคุณภาพสูง

ท่อ PPR (Polypropylene Random Copolymer) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “ท่อ PPR สีเขียว” คือทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายสำหรับงานระบบประปาและท่อน้ำร้อน ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน ไม่รั่วซึม รองรับทั้งแรงดันและอุณหภูมิสูง อีกทั้งยังติดตั้งง่าย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้รับเหมาวัสดุก่อสร้างที่ต้องการวัสดุคุณภาพ คุ้มค่า และเชื่อถือได้

ท่อ ppr กรีนไปป์ รองรับอุณหภูมิ 3-95 องศาเซลเซียส

ท่อ PPR คืออะไร?

คุณสมบัติและการใช้งานของท่อ PPR กรีนไปป์

ท่อ PPR ผลิตจากวัสดุพลาสติกชนิดพิเศษ Polypropylene Random Copolymer (PPR) มีคุณสมบัติทนความร้อนได้สูงถึง 95°C และรองรับแรงดันได้สูงสุด 20 บาร์ เหมาะสำหรับงานประปาทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น ใช้ได้ทั้งในบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม โรงแรม อาคารสูง และโรงงานอุตสาหกรรม โดยท่อชนิดนี้มีอายุการใช้งานนานกว่า 50 ปี ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ท่อ PPR ยังมีความปลอดภัยในการใช้งานกับน้ำดื่ม เพราะไม่มีสารโลหะหนักหรือสารพิษตกค้าง

ข้อต่อท่อ PPR และระบบการเชื่อม

ท่อ PPR กรีนไปป์สามารถเชื่อมต่อได้ด้วยวิธีความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 250-260°C ทำให้เกิดการหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันที่แน่นหนา ไม่เกิดการรั่วซึมในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้ข้อต่อได้ทั้งแบบเกลียว และแบบหน้าแปลน ซึ่งช่วยให้ติดตั้งร่วมกับระบบสุขาภิบาลอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกและยืดหยุ่น การติดตั้งที่ถูกต้องยังช่วยยืดอายุการใช้งานและลดปัญหาในการบำรุงรักษาในอนาคต

ข้อดีของท่อ PPR กรีนไปป์

  • ราคาคุ้มค่า:

    ท่อ ppr กรีนไปป์ มีราคาประหยัด ราคาท่อ PPR เริ่มต้นเพียงเมตรละ 20 บาท เหมาะกับผู้ที่ต้องการ ท่อppr ราคา ที่เข้าถึงง่าย และมีคุณภาพ หาซื้อง่าย ที่ Dohome ทั่วประเทศ

  • ทนต่อแรงดันและความร้อน:

    รองรับแรงดันได้ถึง 20 บาร์ และอุณหภูมิสูงสุด 95°C เหมาะกับระบบน้ำร้อนโดยเฉพาะ

  • โครงการชั้นนำเลือกใช้:

    มีการนำไปใช้มากกว่า 100 โครงการ ทั้งภาครัฐและเอกชน (ดูเพิ่มเติมที่ https://www.greanpipe.com/project-references/)

  • ติดตั้งสะดวก รวดเร็ว:

    ระบบเชื่อมความร้อนไม่ต้องใช้กาว ไม่ต้องรอแห้ง สามารถใช้งานได้ทันที

  • อายุการใช้งานยาวนาน:

    มากกว่า 50 ปี ช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว

  • มีบริการอบรมติดตั้งฟรี:

    สำหรับผู้รับเหมา ช่าง หรือทีมงานในไซต์งาน มีบริการอบรมโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญถึงหน้างาน

6 เหตุผลที่ควรเลือกใช้ท่อ ppr กรีนไปป์

การใช้งานท่อ PPR กรีนไปป์ในระบบต่างๆ

• ท่อน้ำประปา SDR 11 (PN10): เหมาะสำหรับระบบน้ำเย็น หรือน้ำที่มีอุณหภูมิไม่เกิน 60°C รองรับแรงดันได้ 10 บาร์ นิยมใช้ในบ้านเรือนทั่วไป

• ท่อน้ำร้อน SDR 6 (PN20): เหมาะกับงานระบบน้ำร้อน เช่น เครื่องทำน้ำร้อน โรงงาน หรือบ้านพัก รองรับแรงดันได้ถึง 20 บาร์

• ข้อต่อท่อ PPR: รองรับแรงดันและอุณหภูมิสูง มีทั้งแบบเกลียวและหน้าแปลน ใช้งานร่วมกับระบบอื่นได้ดี

ท่อพีพีอาร์ กรีนไปป์
SDR 11 PN 10

ใช้กับท่อประปา/ ท่อน้ำอุ่น อุณหภูมิ 3-60°C ความดัน 10 บาร์

ท่อพีพีอาร์ กรีนไปป์
SDR 6 PN 20

ใช้กับท่อประปา/ ท่อน้ำร้อน อุณหภูมิ 3-95°C ความดัน 20 บาร์

ขนาดและราคาท่อ PPR กรีนไปป์

หากคุณกำลังมองหา ท่อ ppr หรือ ท่อ ppr ที่ราคาคุ้มค่า กรีนไปป์ ตอบโจทย์แน่นอน เพราะ ราคาท่อPP-R กรีนไปป์ เริ่มต้นเพียง 20 บาทต่อเมตรเท่านั้น และมีขนาดตั้งแต่ 1/2 นิ้ว จนถึง 6 นิ้ว รองรับการใช้งานหลากหลาย โดยเฉพาะ ท่อ ppr ขนาดไม่เกิน 2 นิ้ว ราคาท่อ PP-R มีราคาถูกกว่าท่อเหล็กชุบสังกะสี  เหมาะสำหรับโครงการขนาดกลางถึงใหญ่ เนื่องจากสามารถติดตั้งได้ทั้งเป็นท่อเมนแนวตั้งและแนวนอน นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ทั้งระบบท่อน้ำร้อนและน้ำเย็น มีอายุการใช้งานที่คุ้มค่าคุ้มราคา สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม

ตารางท่อ ppr

SDR 6SDR 11
ขนาด (นิ้ว)เส้นผ่านศูนย์กลาง (mm)ความหนาขนาด (นิ้ว)เส้นผ่านศูนย์กลาง (mm)ความหนา
1/2″20 mm3.41/2″ *20 mm2.3
3/4″25 mm4.23/4″25 mm2.3
1″32 mm5.41″32 mm2.9
1 1/4″40 mm6.71 1/4″40 mm3.7
1 1/2″50 mm8.31 1/2″50 mm4.6
2″63 mm10.52″63 mm5.8
2 1/2″75 mm12.52 1/2″75 mm6.8
3″90 mm15.03″90 mm8.2
4″110 mm18.34″110 mm10.0
6″160 mm14.6

* ท่อขนาด D20 เป็น SDR 9 เพื่อเพิ่มความหนาของท่อ

ท่อ PPR กรีนไปป์: คุณภาพที่คุณวางใจได้

ท่อ PPR กรีนไปป์ ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เช่น DIN 8077-8078, DIN 16887, ISO/TR 9080 และ ISO 3213 จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย ทนทาน และเหมาะสำหรับใช้งานในระบบน้ำประปา และระบบน้ำร้อนในทุกสภาพแวดล้อม ทั้งในบ้าน อาคารสำนักงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรม

ท่อ PPR กรีนไปป์: คุณภาพที่คุณวางใจได้
ท่อ PPR ที่ถูกนำไปใช้งานจริง

ท่อ PPR กรีนไปป์ vs ท่อ PVC

ท่อ PPR และท่อ PVC แตกต่างกันอย่างไร?

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ความแตกต่างของท่อพีพีอาร์ และพีวีซี ได้อย่างชัดเจนที่สุด  คือ อาคารที่ใช้ท่อพีพีอาร์ ท่อน้ำไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เนื่องจากความเหนียวของท่อพีพีอาร์ แต่สำหรับท่อพีวีซีที่มีความเปราะ แตกหักง่าย พบว่า ท่อน้ำ และท่อระบายน้ำฝนของหลายอาคารได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

เนื่องจากท่อ PPR ทนทานต่ออุณหภูมิสูงกว่า มีการเชื่อมต่อท่อ และข้อต่อเข้าด้วยกันด้วยความร้อน ดังนั้นท่อ และข้อต่อจะละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ในขณะที่ พีวีซีต้องใช้กาวในการติดตั้ง แม้จะดูติดตั้งง่าย แต่แน่นอนเช่นกันว่า กาวสามารถเสื่อมสภาพ และเกิดปัญหารั่วซึมได้ง่าย แต่ท่อพีพีอาร์ จะไม่เกิดการรั่วซึม แม้จะใช้งานมาแล้วเป็นระยะเวลายาวนาน

ก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้ท่อสำหรับระบบน้ำในบ้านหรืออาคาร การเข้าใจข้อแตกต่างของวัสดุแต่ละประเภทถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะระหว่างท่อ PPR และท่อ PVC ซึ่งต่างก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่ควรพิจารณา การเปรียบเทียบแบบเจาะลึกจะช่วยให้คุณเลือกใช้วัสดุได้อย่างเหมาะสมกับลักษณะงาน ประหยัดทั้งต้นทุน และยืดอายุการใช้งานของระบบท่อในระยะยาว

รายการเปรียบเทียบ

ท่อ PPR

ท่อ PVC

การทนความร้อน

สูง (รองรับได้ถึง 95°C)

ต่ำ (รองรับได้ประมาณ 60°C)

การรับแรงดันน้ำ

สูง (สูงสุด 20 บาร์)

ปานกลาง (ไม่เกิน 13.5บาร์)

วิธีการเชื่อมต่อ

เชื่อมด้วยความร้อน (fusion welding)

ใช้กาวเชื่อม (solvent cement)

ความเสี่ยงในการรั่วซึม

ต่ำมาก เพราะหลอมติดเป็นเนื้อเดียวกัน

สูงกว่า เพราะขึ้นอยู่กับคุณภาพกาวและการทากาว

อายุการใช้งาน

มากกว่า 50 ปี

ประมาณ 15-20 ปี

ความเหมาะสมในการใช้งานน้ำร้อน

เหมาะสมมาก

ไม่แนะนำให้ใช้งานกับระบบน้ำร้อน

ความปลอดภัยสำหรับน้ำดื่ม

ปลอดภัย ไม่มีสารพิษตกค้าง

ปลอดภัยแต่มีข้อจำกัด

ความยืดหยุ่นของท่อ

ยืดหยุ่นสูง ลดความเสียหายจากแรงกระแทก

เปราะ แตกหักง่ายเมื่อโดนแรงกระแทก

Q&A

Q1: ท่อ PPR ใช้กับน้ำดื่มได้หรือไม่?

A1: ได้เพราะท่อ PPR ไม่มีสารพิษตกค้าง และไม่ทำปฏิกิริยากับคลอรีนในน้ำประปา

Q2: ท่อ PPR สามารถใช้ในระบบน้ำที่ฝังดินได้หรือไม่?

A2: ได้ โดยควรเลือกความหนาที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการฝังส่วนที่เป็นโลหะโดยตรงลงในพื้นดิน หรือต้องมีการป้องกันการสึกกร่อนด้านนอกก่อน กรณีที่ตากแดดโดยตรง ควรทาสีกัน UV หรือหุ้มผิวท่อเพื่อป้องกันรังสี UV

Q3: หากต้องการเปลี่ยนจากท่อ PVC มาเป็น PPR ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

A3: ท่อระบบประปาทุกชนิดสามารถเชื่อมต่อกันด้วยเกลียวหรือหน้าแปลน ดังนั้น หาจุดต่อดังกล่าวของ PVC ต่อเข้ากับ PPR จากนั้นจึงเชื่อม PPR ด้วยเครื่องเชื่อมต่อไป

Q4: ท่อ ppr ราคาต่อเมตร เท่าไหร่?

A4: ท่อ ppr ราคาต่อเมตร เริ่มต้นที่ 20 บาท/เมตร เท่านั้น

Q5: ท่อ ppr 2 นิ้ว ราคาเทียบกับท่อเหล็กชุบสังกะสี เป็นอย่างไรบ้าง?

A5: ท่อ ppr ขนาด 1/2 นิ้ว ถึง 2 นิ้ว มีราคาถูกกว่าท่อเหล็กชุบสังกะสี

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม