
เครื่องเชื่อมท่อ PPR คืออะไร? เหตุใดจึงไม่ต้องใช้กาวหรือน้ำยาประสานท่อ
เครื่องเชื่อมท่อ PPR กรีนไปป์ คืออุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการติดตั้งระบบท่อน้ำPPR โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความมั่นใจเรื่อง ความแข็งแรงของรอยเชื่อม, ความปลอดภัย, การป้องกันการรั่วซึม, ทนแรงดันและรองรับอุณหภูมิสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในระบบน้ำร้อน น้ำประปาของอาคาร, โรงงาน, โรงแรม หรือบ้านพักอาศัย
เครื่องเชื่อมท่อPPR กรีนไปป์ ใช้วิธีการติดตั้งท่อและข้อต่อPPR ด้วยการเชื่อมสอดด้วยความร้อน หรือที่เรียกว่า Socket Fusion จึงทำให้ท่อและข้อต่อPPR หลอมเป็นเนื้อเดียวกันไม่รั่วซึม ใช้งานได้นานกว่า 50 ปี โดยไม่ต้องใช้กาวหรือน้ำยาประสานท่อในการติดตั้งเหมือนท่อPVC ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเสื่อมสภาพ และปัญหาของระบบท่อน้ำได้ในอนาคต

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเครื่องเชื่อมท่อPPR กรีนไปป์ ตั้งแต่ส่วนประกอบ วิธีใช้งานเบื้องต้น ไปจนถึงข้อควรระวัง เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
เครื่องเชื่อมท่อ PPR คืออะไร
เครื่องเชื่อมท่อ PPR (PPR Welding Machine) คือเครื่องมือไฟฟ้าที่ให้ความร้อนผ่านหัวเชื่อม เพื่อหลอมปลายท่อและข้อต่อ PPR ให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน เครื่องชนิดนี้จึงมักถูกเรียกว่า “เครื่องเชื่อมท่อเขียว” และนิยมใช้ในระบบน้ำร้อน น้ำเย็น และน้ำดื่ม ที่ต้องการความแน่นหนาและปลอดภัยแบบไร้กาวหรือน้ำยาประสานท่อ
ส่วนประกอบของเครื่องเชื่อม
เครื่องเชื่อมท่อ PPR โดยทั่วไปจะประกอบด้วยอุปกรณ์หลักดังนี้:
- ด้ามจับ
- ไฟแสดงความพร้อมในการใช้งาน
- แผ่นให้ความร้อน
- หัวเชื่อม
- ฐานตั้งเครื่องเชื่อม
- หัวปลั๊กไฟ


วิธีใช้งานเครื่องเชื่อมเบื้องต้น
การใช้งานเครื่องเชื่อม PPR ควรปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อให้ได้งานเชื่อมที่มีคุณภาพและปลอดภัย
ขั้นตอนก่อนเชื่อม
1. เตรียมเครื่องเชื่อมท่อ PPR และเลือกหัวเชื่อมให้ตรงกับขนาดท่อที่ใช้งาน
2. ประกอบหัวเชื่อมเข้ากับแผ่นให้ความร้อนให้แน่นหนา ซึ่งขนาดของหัวเชื่อมจะต้องไม่เลยออกมาจากแผ่นความร้อน เพื่อให้มีการกระจายความร้อนอย่างทั่วถึง ดังรูป ((1),(2))


3. ต่อปลั๊กไฟกับไฟฟ้า 220 โวลต์ (ไฟบ้านปกติ) ด้านข้างเครื่องเชื่อมจะมีปุ่มแดง และสีเขียว ถ้าขึ้นสีแดงหมายถึง เครื่องเชื่อมกำลังทำความร้อน และเมื่อขึ้นไฟสีเขียว หมายถึง เครื่องเชื่อมพร้อมที่จะนำไปใช้งาน โดยอุณหภูมิในการใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ 250 – 260°C
ข้อควรระวัง – ไม่ควรเสียบปลั๊กทิ้งไว้ทั้งวัน เพราะเสี่ยงต่อไฟตก ไฟกระชาก ทำให้เครื่องเสียหาย


4. ทำความสะอาดปลายท่อและข้อต่อให้ปราศจากฝุ่น น้ำมัน หรือเศษผง
วิธีการติดตั้ง
- นำท่อ PPR ที่มาร์กระยะแล้ว และข้อต่อ PPR สวมเข้ากับหัวเชื่อมด้านที่เหมาะสม พร้อมกันทั้งสองฝั่ง
- รอให้วัสดุเริ่มละลาย (โดยระยะเวลาตามที่ระบุบนเส้นท่อ ppr แต่ละขนาด)
- ดึงท่อและข้อต่อออกจากหัวเชื่อมพร้อมกันอย่างระมัดระวัง
- กดท่อและข้อต่อเข้าหากันในแนวตรง โดยจะจัดให้ตรงได้ แต่ไม่หมุนหรือบิดท่อ รอให้วัสดุเย็นตัวและติดกันแน่น รับชม
ขั้นตอนหลังเชื่อม
- ตรวจสอบรอยเชื่อมว่ามีความเรียบร้อย
- ปิดเครื่องและรอให้เครื่องเย็นก่อนเก็บอุปกรณ์
- ปล่อยให้ชุดงานเชื่อมเย็นตัวเต็มที่ก่อนนำไปเก็บเข้ากล่องให้เรียบร้อย
ข้อควรระวังในการใช้งาน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหัวความร้อนโดยตรงขณะเครื่องทำงาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากความร้อนสูง
- อย่าใช้เครื่องเชื่อมในที่เปียกหรือมีน้ำขัง เพื่อความปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้ารั่ว
- ควรเชื่อมในพื้นที่อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมควันจากพลาสติก
- ตรวจสอบสายไฟและเครื่องก่อนใช้งานทุกครั้ง
- หมั่นทำความสะอาดหัวแม่พิมพ์ และตรวจสอบการสึกหรอของเครื่องมือ
สรุปข้อดีของการใช้เครื่องเชื่อม PPR
- ให้รอยเชื่อมที่แน่นหนา: ลดปัญหารั่วซึมในระบบน้ำ
- ทนแรงดันและอุณหภูมิสูง: เหมาะสำหรับระบบน้ำร้อน
- ติดตั้งง่าย: แม้ผู้ใช้งานไม่มีประสบการณ์มากก็สามารถเรียนรู้ได้เร็ว
- ประหยัดเวลา: เชื่อมได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอการแห้งเหมือนกาวหรือสารยึดติด
- ใช้งานได้หลากหลาย: ทั้งในบ้าน อาคารพาณิชย์ หรือโครงการก่อสร้าง
- ไม่ต้องใช้กาว ไม่มีกลิ่น ไม่ต้องรอแห้งข้ามวัน สามารถทดสอบแรงดันน้ำได้ทันที
เครื่องเชื่อมท่อ PPR กรีนไปป์ มีหลากหลายประเภทเพื่อการใช้งานที่เหมาะสม
สนใจสอบถามราคาได้ที่
บทความอื่นๆ
บทความทั้งหมดเขียนโดย GreanPipe เพื่อให้คุณเข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง
